สแตนเลส 304 กับ 201 เลือกเกรดไหนทำรางน้ำฝนดี?

เมื่อพูดถึงการสร้างหรือต่อเติมบ้าน “รางน้ำฝน” คือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะทำหน้าที่ปกป้องผนัง โครงสร้าง และสวนรอบบ้านจากความเสียหายที่เกิดจากน้ำฝน ปัจจุบันวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการทำรางน้ำฝนคงหนีไม่พ้น “สแตนเลส” เนื่องจากความสวยงามทนทานและไม่เป็นสนิม แต่คุณทราบหรือไม่ว่า สแตนเลสที่ใช้กันทั่วไปมีหลายเกรด และเกรดที่มักถูกนำมาเปรียบเทียบกันมากที่สุดคืองาน สแตนเลส 304 กับ 201 ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งในด้านคุณสมบัติและราคาอย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จาก พันธุ์นราโลหะการ (Phunnara Steel) ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งรางน้ำฝน จะขออาสาพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงความแตกต่างของสแตนเลสทั้งสองเกรดแบบหมดเปลือก เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกรางน้ำฝนที่เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับบ้านของคุณมากที่สุด

ทำความรู้จัก “สแตนเลส” เกรด 304 และ 201

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “สแตนเลส” (Stainless Steel) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ “เหล็กกล้าไร้สนิม” คือโลหะผสม (Alloy) ที่มีโครเมียมเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้มีคุณสมบัติเด่นคือการสร้างฟิล์มบางๆ เพื่อป้องกันการกัดกร่อน หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า “กันสนิม” นั่นเอง แต่ความแตกต่างของแต่ละเกรดอยู่ที่ส่วนผสมอื่นๆ ที่ใส่เพิ่มเข้าไป

• สแตนเลสเกรด 304 (SUS 304): เป็นเกรดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและนิยมใช้มากที่สุด มีส่วนประกอบของ โครเมียม (Chromium) ประมาณ 18% และที่สำคัญคือมี นิกเกิล (Nickel) สูงถึง 8% ซึ่งเจ้านิกเกิลนี่เองที่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้สแตนเลส 304 มีความทนทานต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นจากความชื้นในอากาศ น้ำฝน หรือแม้กระทั่งสารเคมีอ่อนๆ จึงเหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานสูงและต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอกโดยตรง
• สแตนเลสเกรด 201 (SUS 201): เป็นเกรดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกที่มี ราคาถูกกว่า โดยการลดปริมาณ “นิกเกิล” ลง แล้วใช้ แมงกานีส (Manganese) และ ไนโตรเจน (Nitrogen) เข้ามาทดแทนบางส่วน แม้จะยังคงคุณสมบัติไม่เป็นสนิมในระดับหนึ่ง แต่ความสามารถในการทนทานต่อการกัดกร่อนนั้น ด้อยกว่าเกรด 304 อย่างชัดเจน

ตารางเปรียบเทียบหมัดต่อหมัด: สแตนเลส 304 vs 201 สำหรับงานรางน้ำฝน

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนที่สุด เราได้ทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติที่สำคัญของสแตนเลสทั้งสองเกรดสำหรับงานรางน้ำฝนโดยเฉพาะ

ตารางเปรียบเทียบ: สแตนเลส 304 vs 201 สำหรับงานรางน้ำฝน

 

รายการเปรียบเทียบ	สแตนเลส 304 (Stainless Steel 304)	สแตนเลส 201 (Stainless Steel 201)
ความต้านทานต่อสนิม/การกัดกร่อน	★★★★★ ทนทานสูงมาก เหมาะกับงานภายนอก มีฝน ความชื้นสูง	★★ ต่ำกว่า 304 มาก เสี่ยงเกิดสนิมเมื่อโดนน้ำหรือความชื้นต่อเนื่อง
อายุการใช้งานโดยประมาณ	10–20 ปี (หากติดตั้งและดูแลถูกวิธี)	3–7 ปี (อาจเกิดสนิมก่อน หากโดนน้ำฝนบ่อย)
ส่วนประกอบหลัก	โครเมียม ~18% / นิกเกิล ~8%	โครเมียม ~16% / แมงกานีสแทนนิกเกิล
ความเงางาม/ผิวสัมผัส	เงาและสว่าง ดูพรีเมียม	ผิวด้านกว่า อาจดูคล้ำลงเมื่อใช้ไปนานๆ
ความนิยมในงานรางน้ำฝน	ใช้กันแพร่หลาย โดยเฉพาะกับงานคุณภาพสูง	ไม่แนะนำสำหรับงานภายนอก เสี่ยงเกิดสนิมและปัญหาในอนาคต
ราคา	สูงกว่า เกรด 201	ถูกกว่า เกรด 304

เลือกเกรดไหนให้เหมาะกับบ้านคุณ? คำตอบสำหรับรางน้ำฝน

จากตารางข้างต้น จะเห็นได้ว่าแม้สแตนเลส 201 จะมีราคาที่น่าดึงดูดใจกว่า แต่สำหรับงานที่ต้องเผชิญกับแดด ลม และฝนตลอดทั้งปีอย่าง “รางน้ำฝน” แล้ว สแตนเลสเกรด 304 คือคำตอบเดียวที่ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุดในระยะยาว ด้วยเหตุผลดังนี้

• ภูมิอากาศประเทศไทย: ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้นและมีฝนตกชุก ความชื้นในอากาศคือปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้เกิดสนิม การเลือกใช้วัสดุที่ทนทานสูงสุดอย่างเกรด 304 จึงเป็นการตัดปัญหาตั้งแต่ต้นลม
• ความเสี่ยงจากฝนกรดและมลภาวะ: ในเขตเมืองและพื้นที่อุตสาหกรรม น้ำฝนอาจมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งสามารถกัดกร่อนสแตนเลสเกรด 201 ให้เสียหายได้ง่ายกว่า
• บ้านใกล้ทะเล: หากบ้านของคุณอยู่ในพื้นที่ใกล้ทะเล (ระยะไม่เกิน 20-30 กิโลเมตร) ไอเกลือในอากาศจะเร่งการเกิดสนิมได้อย่างรวดเร็วมาก จำเป็นต้องใช้สแตนเลส 304 หรือสูงกว่าเท่านั้น
• ความคุ้มค่าระยะยาว: การลงทุนเพิ่มในครั้งแรกเพื่อเลือกใช้เกรด 304 ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ในอนาคตได้อย่างมหาศาล ลองจินตนาการถึงความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการรื้อรางน้ำฝนเก่าที่ผุพังแล้วติดตั้งใหม่ทั้งหมด

แล้วสแตนเลส 201 เหมาะกับงานอะไร? อาจเหมาะกับงานตกแต่งภายในที่ไม่ต้องสัมผัสความชื้นบ่อยๆ เช่น ราวบันไดบางส่วน ชั้นวางของ หรือเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น แต่ ไม่แนะนำอย่างยิ่ง สำหรับงานรางน้ำฝน

ทำไมต้องเลือกรางน้ำฝนสแตนเลส 304 แท้จาก “พันธุ์นราโลหะการ”?

ที่ พันธุ์นราโลหะการ (Phunnara Steel) เราเข้าใจถึงความสำคัญของการเลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของลูกค้า เราจึงยึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดเพื่อสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจ 

• ⭐ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: เรามีประสบการณ์ในวงการรางน้ำฝนมาอย่างยาวนาน พร้อมให้คำแนะนำที่ถูกต้องและตรงไปตรงมาแก่ลูกค้าเสมอ
• ความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับเราเลือกใช้เฉพาะ “สแตนเลสเกรด 304 พร้อมใบ Certificate รับรอง” ที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานเท่านั้น
  • ทีมช่างติดตั้งมืออาชีพ ที่ผ่านการอบรมมาโดยเฉพาะ ทำให้งานติดตั้งเรียบร้อย สวยงาม และได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรม
  • การรับประกันสินค้าและผลงานติดตั้ง เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารางน้ำฝนของเราจะปกป้องบ้านของคุณไปได้อย่างยาวนาน

บทสรุป

การเลือกระหว่าง สแตนเลสเกรด 304 กับ 201 สำหรับรางน้ำฝน
อาจดูเหมือนแค่เรื่องต้นทุน แต่ในความจริง —
“ส่วนผสมของนิกเกิล” ในเกรด 304 คือหัวใจสำคัญที่ทำให้วัสดุนี้
ทนสนิม ทนฝน และอยู่กับบ้านหรือโรงงานของคุณได้นานนับ 10–20 ปี

ในขณะที่การเลือกใช้เกรด 201 ซึ่งราคาย่อมเยากว่า
อาจนำไปสู่ปัญหาเหล่านี้ภายในไม่กี่ปี:

• ❌ สนิมกินรางน้ำ ทำให้น้ำรั่วไหลตลอดแนว 
• ❌ น้ำย้อนเข้าฝ้าเพดาน / ผนังเปียกชื้น ต้องรื้อซ่อมทั้งโครงสร้าง 
• ❌ กล่องสินค้าในโกดังเสียหาย จากน้ำหยดโดยไม่รู้ตัว 
• ❌ เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าถูกน้ำหยดใส่ จนพังหรือหยุดงาน 
• ❌ เสียเวลา เสียเครดิต เสียลูกค้า จากการต้องซ่อมบ่อยและแก้งานซ้ำ 
• ❌ ค่าใช้จ่ายที่ “คิดว่าประหยัด” กลับกลายเป็นภาระในระยะยาว 

เพราะ คงไม่มีใครอยากซ่อมบ้านหรือโรงงานหลายรอบ แค่จุดเล็กๆ อย่าง “รางน้ำ” ถ้าเลือกผิด ก็อาจเป็นต้นเหตุของ “เรื่องใหญ่” ลงทุนครั้งเดียวจบ เลือกสแตนเลส 304 เพื่อบ้านที่แห้ง สวย และปลอดภัยไปอีกนาน รางน้ำฝนสแตนเลสเกรด 304 จาก พันธุ์นรา โลหะการ

✔️ ผลิตจากสแตนเลสแท้ เกรด 304 พร้อมใบ Certificate รับรองคุณภาพ
✔️ งานเชื่อมอาร์กอนไร้รอยต่อ รางแข็งแรง ไม่รั่วซึม
✔️ ทีมช่างเชี่ยวชาญ พร้อมติดตั้งอย่างมืออาชีพ
✔️ รับประกันความพอใจ พร้อมให้คำปรึกษาฟรี*

*เงื่อนไขการประเมินหน้างานฟรีเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบรายละเอียดก่อนนัดหมาย